กิน เที่ยว ที่ภูเก็ต (2)

เพื่อไม่ให้ทริปภูเก็ตหนนี้กลายเป็นทริปกินอย่างเดียว ภาค 2 นี้เลยจะเป็นการไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแทน เริ่มกันด้วยวัดฉลอง ตอนอยู่บนเขารังมองออกไปก็เห็นพระใหญ่อยู่ไกลลิบๆ แต่ดูท่าทางยังไงซะวันนี้ก็ต้องไปทางนี้หละ

วัดฉลองจะอยู่ก่อนถึงพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี วิ่งไปตามเส้นหลักตามป้ายไปไม่ยาก แต่เพื่อความชัวร์เลยงัดไอโฟนออกมาเปิด google map ก่อน ขับไปเรื่อยๆทางเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือ

ทางเข้าวัดฉลอง

พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ

ด้านในของพระมหาธาตุเจดีย์

แก้บนโดยการจุดประทัดได้ที่นี่

ออกจากวัดฉลองขับต่อไปซักพักก็จะไปถึงทางขึ้นเขานาคเกิด ที่นี่ตามรีวิวเค้าบอกว่าทางขึ้นค่อนข้างชัน ขับยากอันตราย ใครไม่มั่นใจให้ขึ้นรถของวัดไป แต่คุณแฟนก็บอกว่าจะลองขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปเองทั้งอย่างงี้แหละ ไม่ไหวตรงไหนค่อยเปลี่ยนวิธี ก็ลองขึ้นไปทั้งชันทั้งโค้ง ระหว่างทางจะเห็นร้านให้เช่ารถ ATV และที่ให้ขึ้นช้างอยู่ประปราย ซึ่งก็น่าอยูู่หรอก เค้าทำถนนกันได้สนุกมาก ขับ ATV คงจะมันส์ดี นอกจากนี้ระหว่างทางมองออกไปจะเห็นวิวทะเลสวยๆของหาดราไวย์ แต่น่าเสียดายไม่ได้ถ่ายมาเลย มัวนั่งเกร็งตัวอยู่เพราะใส่กระโปรงซ้อนข้าง >_< ขี่ขึ้นไปเรื่อยๆไกลประมาณนึงก็จะถึงที่หมายคือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี พระประจำเมืองภูเก็ต

พระใหญ่

มีผ้าคลุมไหล่และผ้าถุงให้สตรีเพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่

วิวเขานาคมองลงไปเห็นทะเล

เดินขึ้นไปข้างบนที่ฐานพระใหญ่ได้อีก

วิวด้านบน สวยขึ้นไปอีก

ดูวิวที่นี่ซักพักพอมองนาฬิกาก็คิดได้ว่าคงถึงเวลาที่จะต้องย้ายสถานที่แล้ว ไม่งั้นจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพไม่ทัน ว่าแล้วก็มุ่งหน้าลงจากเขาได้ แต่!!ดูจากขาขึ้นแล้ว ขาลงนี้จะมาทำตัวเรียบร้อยนั่งซ้อนข้างก็คงจะไม่เหมาะ ขอคร่อมเลยก็แล้วกัน!! ถือโอกาสนี้ถ่ายคลิปตอนลงไปด้วยเลย

ใช้เวลาลงไปประมาณ 9 นาที แอบได้กลิ่นเหม็นไหม้คาดว่ามาจากผ้าเบรค พอสุดทางลงแล้วคุณแฟนต้องขอพักเล็กน้อยเพราะกำเบรคมาตลอดทางแถมกลัวผ้าเบรคไหม้เอาเหมือนกัน

จุดต่อไปคือจุดชมวิว 3 อ่าวซึ่งโดยส่วนตัวแล้วสนใจมากกว่าแหลมพรหมเทพซะอีก การจะไปจุดชมวิว 3 อ่าวนี้ก็จะต้องขี่ตัดข้างฟากเกาะไป ก็เดาทางไปอีกเช่นเคย แถวๆนี้จะไม่มีปั๊มน้ำมัน ถ้าน้ำมันใกล้หมดก็ซื้อเติมเป็นขวดๆเอา เราก็เติมไปขวดนึง 40 บาท และแล้วก็มาถึงที่หมาย...

จุดชมวิวกะรน (จุดชมวิว 3 อ่าว)

ชัดๆอีกรูป

พักชมวิวเพลินๆซักครู่ แล้วก็เลาะไปแหลมพรหมเทพกันต่อ ก่อนที่จะถึงแหลมพรหมเทพก็จะเจอทางแยกนึงไปที่สถานีไฟฟ้า ที่นี่วิวสวย บรรยากาศสงบ ถูกใจมากเลยจริงๆ มีคนมาเล่นพาราชูท เครื่องบินบังคับ หรือดูวิวงามๆนี้อยู่ประปราย

แยกนี้เลยเห็นกังหันลมเด่นชัด

พาราชูท

นั่งดูวิวกันเพลินๆ

 คุณแฟนรีเควสว่าดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ดีกว่ามั้ย แต่ไม่ค่ะ เราไม่ยอมมาภูเก็ตไม่ไปแหลมพรหมเทพ เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง อิอิ จริงๆแล้วอยากไปกินหมึกย่างตามกระทู้แนะนำค่ะ

ทางไปแหลมพรหมเทพ คดเคี้ยวอีกแล้ว

ถึงแล้วค่ะ แหลมพรหมเทพ ลานกว้างมากๆ

ลงมาหาซื้อไอติมกินซะหน่อย ลูกนี้ 50 บาท 

รสชาติก็งั้นๆ ไอติมมะพร้าวที่มาขายตามงานแสดงสินค้าที่สิริกิติ์ 20 บาทอร่อยกว่า 

แก้วนี้ชาชัก 25 บาท หวานไปหน่อยค่ะ ในบรรดาชาที่กินที่ภูเก็ตร้านนี้อร่อยน้อยสุด

 ส่วนปลาหมึกไข่ย่างที่ตั้งใจเต็มที่ว่าจะมากินนั้น หาร้านเจอแต่...ทำไมมีแต่ข้าวโพดขายหละคะป้า ปลาหมึกไม่มีเหรอ??? "ปลาหมึกไม่มีหนู หาปลาหมึกมาทำไมไ่ด้เลย ไม่มีมา 2-3 วันแล้ว" เฮ้ยยยย.... อด ซิกๆ ปาดน้ำตา 2 ที เดินขึ้นไปรอดูพระอาทิตย์ตกต่อก็ด๊ายยยยยยย~

รอพระอาทิตย์นานว่างจัด

นักท่องเที่ยวมารอดูกันเต็มเลย

ก่อนตกก็เห็นดีอยู่พอใกล้ๆขอบน้ำปุ๊บ เมฆมาจากไหนกันน๊อ 

ความรู้สึกตอนดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ยังเหมือนความรู้สึกสมัยเด็กๆ นั่นก็คือดูพระอาทิตย์ตกที่บ้านตัวเองสวยกว่า ที่นี่คนเยอะ วุ่นวายเหลือเกิน วิวก็บ้านๆธรรมดา พระอาทิตย์ดวงก็เล็ก แต่แน่นอนนี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวที่คงจะเห็นต่างกับคนอื่นอีกแล้ว ก็ใครๆเค้าก็มารอดูกันนี่

ออกจากแหลมพรหมเทมุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อกินอาหารเย็นตามรายการแนะนำอีกครั้งเป็นมื้อสุดท้ายของวันนี้ ท้องฟ้ามืดลงแล้ว ขี่มอเตอร์ไซค์ไปบางจุดต้องระวังหน่อยเพราะไม่ได้มีไฟสว่างทุกเส้น ที่ๆจะแวะไปกินมื้อนี้คือ ฮ้องข้าวต้มปลา ซึ่งเค้ารีวิวว่าอาหารตามสั่งเด็ดมาก ร้านอยู่ไม่ไกลจากวงเวียนหอนาฬิกา ขับออกไปเส้นไปสะพานหินนิดเดียวก็เจอ

ซีฟู๊ดผัดฉ่า

ปลาผัดคึ่นช่าย

 มา 2 คนเลยลองกันได้แค่ 2 เมนู แต่ละจานๆให้เยอะมาก อร่อยด้วย ปลาผัดคึ่นช่ายให้คึ่นช่ายเยอะถูกใจมาก มื้อนี้อิ่มจัง (กับ 2 อย่าง+ ข้าว 2 จาน + โค้ก  195บาท)ตอนแรกว่าจะไปจังซีลอนต่อเพราะเห็นเค้าว่ามีแสดงม่านน้ำ แต่ดูเส้นทางแล้วคงไม่เหมาะจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปตอนกลางคืน เลยตัดสินใจกลับโรงแรมไปดูณเดชกับญาญ่าดีกว่า :D


ตอน 3 จะพาปที่เกาะราชา และเกาะเฮนะคะ ^^