รีวิวกาลครั้งหนึ่งจนวันนี้จ้า หนนี้ใช้ voucher จาก 12Plus สปอนเซอร์หลักของหนังเรื่องนี้ แจก voucher เยอะมากกกกกกกกกกก แอบฮาพนง.Major นิดนึง บอกเค้าดูเรื่อง Until Now น้องเค้าหน้าเหวอไปเลย เค้าไม่รู้ชื่อภาษาอังกฤษ แหมๆเอาจริงดิน้องคะ น้องทำงานขายตั๋วหนังนะคะ นี่ถ้ายังไม่ได้ดูเฮอคิวลิสนะ จะลองบอก "ดูเรื่อง โคตรคนพลังเทพ 2 ที่ค่ะ" 555+
เข้าเรื่องค่ะ...
เรื่องนี้เล่าถึง "ต้น" ผู้ชายที่ไม่เคยลืมความรักครั้งแรกที่เป็นรักข้างเดียวที่ไม่ได้สารภาพออกไปกับเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อว่า "แก้ว" ซึ่งวันหนึ่งในช่วงม.6ได้หายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย จนเมื่อต้นใกล้จะแต่งงานกับ "ตาล" คนรักใหม่ที่คบกันมาหลายปี ความรู้สึกที่ยังคงค้างคาฉุดรั้งต้นไว้ จนต้นต้องไปตามหาแก้ว เพื่อเคลียร์ความรู้สึกที่ค้างคา ไม่งั้นเค้าคงแต่งงานด้วยความรู้สึกผิดกับทั้งตาลและตัวเอง
“ต้น” (อายุ 18 ปี) รับบทโดย พาวิช ทรัพย์รุ่งโรจน์ (นิค)“ แก้ว” รับบทโดย อธิศาพัฒน์ วงศ์เงินยวง (นิกแน๊ก) |
“ต้น” (อายุ 23,33 ปี) รับบทโดย อารักษ์ อมรศุภสิริ (เป้) |
หนังFeel good ดูได้เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไม่พีคไม่อิน บางจุดยังปะติดปะต่อไม่ค่อยดี แต่ไม่มีมุกเสี่ยวๆเยอะแยะสไตล์เป้ อารักษ์มาให้รำคาญใจ (จริงๆแล้วเรื่องนี้เป้บทน้อยนะ เรื่องวัยเด็กซัดไป 4/5ส่วนของเรื่อง ) ดูแล้วเหมือนดูแฟนฉันผสมสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก พล็อตบางส่วนก๊อปมาเลยแอบเซ็ง คิดไม่ออกเหรอ ทำไมใช้พล็อตซ้ำ ส่วนฉากหลงทางในป่ากลางสายฝนแถมยังเจ็บตัวเปียกปอนนี่มุกคลาสสิคหนังเก่าแทบทุกเรื่องทุกประเทศใช้กัน ยังกล้าเอามาใช้เนอะ อยากให้มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆบ้างไรบ้างนะคะ แหม่ - -* โทนสีหนังเป็นแบบนวลๆเหลืองๆให้ความรู้สึกเก่าๆหน่อย บางฉากก็เหลืองส้มไปหมดเลย ฟิลเตอร์หนักไปนะ เพลงประกอบใส่เพื่อบิ๊วอารมณ์คนดูไม่ยั้ง อย่างช่วงวัยเด็กนี่ใช้เพลง Canon ถี่ิยิบแบบเต็มเพลง ....วัยโตก็เพลงนี่คือรักแท้ใช่ไหม โดย ธนนท์ The voice ถามว่าอินมั้ย...ไม่!!
บางจุดเนื้อเรื่องหรือคำพูดไม่สมเหตุสมผล เหมือนจากฉาก 1 ไปฉาก 2 ถ่ายฉาก 2 ไว้ 2 แบบ แต่พอตัดต่อ ดันใส่มาเป็น ฉาก 1 ต่อด้วย 2แบบ1 และต่อด้วย 2แบบ2 ดูละเลยแบบ เฮ่ย!!....ไม่รู้ใครสังเกตุรึเปล่านะ (ฉากหลังเก็บมะม่วง) แล้วบ้านอยู่ใกล้กันมาก แต่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย มันก็เกินไป นางเอกย้ายบ้านตัวเองไม่รู้เรื่องงี้ มีเสียงปืนเหมือนยิงปะทะ แต่เนื้อเรื่องต่อจากนั้นเหมือนไปก่อนยังไม่ได้ยิงปะทะงี้
บางฉากก็เน้นซะเยอะ แล้วก็ปล่อยให้หายไปหลังจากนั้น อย่างเรื่องของปู่ หรือว่าเรื่องในป่า แต่บางเรื่องที่ควรเน้นกลับไม่เน้น เรื่องของเป้กับตาลนี่น้อยไปมาก ดูแล้วไม่อินให้เวลาน้อยเหลือเกิน จนไม่รู้สึกว่านี่คือแฟนกัน จนรู้สึกว่าตาลงี่เง่า ไม่ทำให้เชียร์ให้ตาลได้คู่กับต้นเลย จริงๆอาจจะถ่ายคู่นี้ไว้เยอะกว่านี้ แต่ตัดใจเอามาใส่หนังไม่ลงเพราะเล่นแข็งเหลือเกิน ตาลแข็งอันดับ 1 ต้น(เป้) อันดับ 2 สุดๆไปเลย
บทพ่อแก้ว “ชัย” รับบทโดย ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง....ไม่รู้จะเอาไงกะเค้าแน่ เดี๋ยวเซอร์เดี๋ยวก็แลดูเนี๊ยบ(ต้องบ่นคอสตูมกับช่างแต่งหน้าใช่มั้ย) ฉากที่มาทักแก้วในครัว หล่อไปป่าว แล้วสายตาคนมาดุลูก ตอนแรกนึกว่าจะมาเคลมลูกตัวเองละ ตาหวานเกิ๊น
บทพ่อแก้ว “ชัย” รับบทโดย ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง....ไม่รู้จะเอาไงกะเค้าแน่ เดี๋ยวเซอร์เดี๋ยวก็แลดูเนี๊ยบ(ต้องบ่นคอสตูมกับช่างแต่งหน้าใช่มั้ย) ฉากที่มาทักแก้วในครัว หล่อไปป่าว แล้วสายตาคนมาดุลูก ตอนแรกนึกว่าจะมาเคลมลูกตัวเองละ ตาหวานเกิ๊น
อ้อ เกลียดอยู่อย่าง คือเรื่องการพูดคำหยาบของนางเอก เข้าใจนะว่าอยากแสดงออกว่าแก้วเป็นหญิงห้าว แต่ไม่ต้องยัดคำว่า "วะ" ใส่ไปมากมายก็ได้ ใส่ไปมากพอๆกับการโฆษณาสปอนเซอร์ที่หรายู่ในจอ โดยเฉพาะฉากต้นๆเรื่อง คำนี้ไม่พูดก็ไม่มีผลให้แก้วดูห้าวน้อยลงเลยนะ(จริงๆคือใส่ไปก็ไม่ได้ดูห้าวเลย เพราะเสียงแก้วงุ้งงิ้งมาก) จะพูดก็ได้แต่ต้องธรรมชาติกว่านี้ปะ นี่บางช่วงยัดไปซะหนักเลย บางช่วงลืมคับท่าน ไม่วะซักคำแถมประโยคแบ้วซะ
อีกอย่างการแต่งหน้า(อันนี้คุณแฟนฝากบ่นมา ฮีบ่นเรื่องการแต่งหน้าทุกเรื่อง) จอมันใหญ่ ภาพมันชัด เห็นการโบกชัดเลย การแต่งหน้าตาลก็เหมือนยังคิดสไตล์เค้าไม่ออก ฉากแรกมาผิวแทนมาเชียวแลดูลูกครึ่ง อีกฉากขาวเกาหลี อีกฉากงาน Press ดันโทรม ส่วนแก้วทรงผมฉากจบนั่นมันอัลไล
สรุป ดูได้เรื่อยๆฮะ ได้ voucher มาก็ดูไปเถอะ ถ้าไม่ไ้ด้voucher ใครชอบดูหนังไทยก็พอไปเสียตังดูได้ฮะ ส่วนเราไม่นิยมคงขอบายไม่ได้อิ่มเอมอะไรแบบตอนดูสิ่งเล็กๆหรือแฟนฉัน แต่ยังไงก็ดีกว่า coffee please เยอะ
7 Feb 2014
Cinema 8
Major Pinklao
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น