วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รีวิวหนัง : Until now กาลครั้งหนึ่งจนวันนี้


รีวิวกาลครั้งหนึ่งจนวันนี้จ้า หนนี้ใช้ voucher จาก 12Plus สปอนเซอร์หลักของหนังเรื่องนี้ แจก voucher เยอะมากกกกกกกกกกก แอบฮาพนง.Major นิดนึง บอกเค้าดูเรื่อง Until Now น้องเค้าหน้าเหวอไปเลย เค้าไม่รู้ชื่อภาษาอังกฤษ แหมๆเอาจริงดิน้องคะ น้องทำงานขายตั๋วหนังนะคะ  นี่ถ้ายังไม่ได้ดูเฮอคิวลิสนะ จะลองบอก "ดูเรื่อง โคตรคนพลังเทพ 2 ที่ค่ะ" 555+

เข้าเรื่องค่ะ...
เรื่องนี้เล่าถึง "ต้น" ผู้ชายที่ไม่เคยลืมความรักครั้งแรกที่เป็นรักข้างเดียวที่ไม่ได้สารภาพออกไปกับเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อว่า "แก้ว" ซึ่งวันหนึ่งในช่วงม.6ได้หายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย จนเมื่อต้นใกล้จะแต่งงานกับ "ตาล" คนรักใหม่ที่คบกันมาหลายปี ความรู้สึกที่ยังคงค้างคาฉุดรั้งต้นไว้ จนต้นต้องไปตามหาแก้ว เพื่อเคลียร์ความรู้สึกที่ค้างคา ไม่งั้นเค้าคงแต่งงานด้วยความรู้สึกผิดกับทั้งตาลและตัวเอง

ต้น” (อายุ 18 ปี) รับบทโดย พาวิช ทรัพย์รุ่งโรจน์ (นิค)
แก้ว” รับบทโดย อธิศาพัฒน์ วงศ์เงินยวง (นิกแน๊ก)
ต้น” (อายุ 23,33 ปี) รับบทโดย อารักษ์ อมรศุภสิริ (เป้)


หนังFeel good ดูได้เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไม่พีคไม่อิน บางจุดยังปะติดปะต่อไม่ค่อยดี แต่ไม่มีมุกเสี่ยวๆเยอะแยะสไตล์เป้ อารักษ์มาให้รำคาญใจ (จริงๆแล้วเรื่องนี้เป้บทน้อยนะ เรื่องวัยเด็กซัดไป 4/5ส่วนของเรื่อง ) ดูแล้วเหมือนดูแฟนฉันผสมสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก พล็อตบางส่วนก๊อปมาเลยแอบเซ็ง คิดไม่ออกเหรอ ทำไมใช้พล็อตซ้ำ ส่วนฉากหลงทางในป่ากลางสายฝนแถมยังเจ็บตัวเปียกปอนนี่มุกคลาสสิคหนังเก่าแทบทุกเรื่องทุกประเทศใช้กัน ยังกล้าเอามาใช้เนอะ อยากให้มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆบ้างไรบ้างนะคะ แหม่ - -* โทนสีหนังเป็นแบบนวลๆเหลืองๆให้ความรู้สึกเก่าๆหน่อย บางฉากก็เหลืองส้มไปหมดเลย ฟิลเตอร์หนักไปนะ เพลงประกอบใส่เพื่อบิ๊วอารมณ์คนดูไม่ยั้ง อย่างช่วงวัยเด็กนี่ใช้เพลง Canon ถี่ิยิบแบบเต็มเพลง  ....วัยโตก็เพลงนี่คือรักแท้ใช่ไหม โดย ธนนท์ The voice ถามว่าอินมั้ย...ไม่!!


บางจุดเนื้อเรื่องหรือคำพูดไม่สมเหตุสมผล เหมือนจากฉาก 1 ไปฉาก 2 ถ่ายฉาก 2 ไว้ 2 แบบ แต่พอตัดต่อ ดันใส่มาเป็น ฉาก 1 ต่อด้วย 2แบบ1 และต่อด้วย 2แบบ2 ดูละเลยแบบ เฮ่ย!!....ไม่รู้ใครสังเกตุรึเปล่านะ (ฉากหลังเก็บมะม่วง) แล้วบ้านอยู่ใกล้กันมาก แต่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย มันก็เกินไป นางเอกย้ายบ้านตัวเองไม่รู้เรื่องงี้ มีเสียงปืนเหมือนยิงปะทะ แต่เนื้อเรื่องต่อจากนั้นเหมือนไปก่อนยังไม่ได้ยิงปะทะงี้ 

บางฉากก็เน้นซะเยอะ แล้วก็ปล่อยให้หายไปหลังจากนั้น อย่างเรื่องของปู่ หรือว่าเรื่องในป่า แต่บางเรื่องที่ควรเน้นกลับไม่เน้น เรื่องของเป้กับตาลนี่น้อยไปมาก ดูแล้วไม่อินให้เวลาน้อยเหลือเกิน จนไม่รู้สึกว่านี่คือแฟนกัน จนรู้สึกว่าตาลงี่เง่า ไม่ทำให้เชียร์ให้ตาลได้คู่กับต้นเลย จริงๆอาจจะถ่ายคู่นี้ไว้เยอะกว่านี้ แต่ตัดใจเอามาใส่หนังไม่ลงเพราะเล่นแข็งเหลือเกิน ตาลแข็งอันดับ 1 ต้น(เป้) อันดับ 2 สุดๆไปเลย

บทพ่อแก้ว ชัย” รับบทโดย ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง....ไม่รู้จะเอาไงกะเค้าแน่ เดี๋ยวเซอร์เดี๋ยวก็แลดูเนี๊ยบ(ต้องบ่นคอสตูมกับช่างแต่งหน้าใช่มั้ย) ฉากที่มาทักแก้วในครัว หล่อไปป่าว แล้วสายตาคนมาดุลูก ตอนแรกนึกว่าจะมาเคลมลูกตัวเองละ ตาหวานเกิ๊น 

อ้อ เกลียดอยู่อย่าง คือเรื่องการพูดคำหยาบของนางเอก เข้าใจนะว่าอยากแสดงออกว่าแก้วเป็นหญิงห้าว แต่ไม่ต้องยัดคำว่า "วะ" ใส่ไปมากมายก็ได้ ใส่ไปมากพอๆกับการโฆษณาสปอนเซอร์ที่หรายู่ในจอ โดยเฉพาะฉากต้นๆเรื่อง คำนี้ไม่พูดก็ไม่มีผลให้แก้วดูห้าวน้อยลงเลยนะ(จริงๆคือใส่ไปก็ไม่ได้ดูห้าวเลย เพราะเสียงแก้วงุ้งงิ้งมาก)  จะพูดก็ได้แต่ต้องธรรมชาติกว่านี้ปะ นี่บางช่วงยัดไปซะหนักเลย บางช่วงลืมคับท่าน ไม่วะซักคำแถมประโยคแบ้วซะ

อีกอย่างการแต่งหน้า(อันนี้คุณแฟนฝากบ่นมา ฮีบ่นเรื่องการแต่งหน้าทุกเรื่อง) จอมันใหญ่ ภาพมันชัด เห็นการโบกชัดเลย การแต่งหน้าตาลก็เหมือนยังคิดสไตล์เค้าไม่ออก ฉากแรกมาผิวแทนมาเชียวแลดูลูกครึ่ง อีกฉากขาวเกาหลี อีกฉากงาน Press ดันโทรม ส่วนแก้วทรงผมฉากจบนั่นมันอัลไล

สรุป ดูได้เรื่อยๆฮะ ได้ voucher มาก็ดูไปเถอะ ถ้าไม่ไ้ด้voucher ใครชอบดูหนังไทยก็พอไปเสียตังดูได้ฮะ ส่วนเราไม่นิยมคงขอบายไม่ได้อิ่มเอมอะไรแบบตอนดูสิ่งเล็กๆหรือแฟนฉัน แต่ยังไงก็ดีกว่า coffee please เยอะ 

7 Feb 2014
Cinema 8
Major Pinklao

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น