วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

Camel Republic ที่เที่ยวแห่งใหม่ในชะอำ

วันนี้ขับรถไปชะอำ...เพื่อไปกินอาหารทะเล นอนเตียงผ้าใบริมหาดชะอำ...แค่นั้นแหละค่ะ จุดมุ่งหมาย...แต่ระหว่างทางไป ขับเลย Santorini ที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามไปแล้ว นิดนึงก็เห็นสถานที่แปลกตา เป็นตึกสีส้มๆ ชื่อ Camel Republic และมีป้าย Now Open แปะอยู่ตรงทางเข้า มองเข้าไปก็ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร คือเห็นแต่ผนังสีส้มอะเนอะ แล้วเลยทางเข้ามาแล้ว ก็ว่าจะมุ่งตรงไปหาดชะอำต่อ แต่มือก็เล่นมือถืออยู่ เลื่อนมาเจอ page 'Let's Check In' แชร์ลิ้งค์ว่าที่นี่เปิดแล้ว (เปิดวันที่ 28.03.14) แบบ soft opening ไม่เก็บค่าเข้ามาพอดี เลยวกรถกลับไปแวะซักหน่อย ^^
Camel Republic
ทางเข้าแอบเข้ายากซักนิดนะคะโดนบังพอเจอซานโตรินี่แล้ว เลยมานิดพอเห็นตัวตึกของ Camel Republic ให้เริ่มขับชิดซ้ายชะลอมองหาทางเข้าได้เลยค่ะ เค้ามีที่จอดรถอยู่ด้านหน้า จอดได้เยอะเลย
เห็นชัดจากถนนใหญ่ แต่อยู่ตรงทางออกนะคะตึกนี้

จากที่อ่านจากเพจ Camel Republic การ soft opening ไม่เก็บค่าเข้าถึงช่วงต้นเมษาแต่ไม่มีระบุวันไว้นะคะ ส่วนเปิดจริงจะเป็นช่วงมิถุนายน ตอนนี้ภายในโซนเครื่องเล่นนี่ยังตกแต่งไม่เสร็จบางจุดค่ะ บางห้องก็ยังเลื่อยไม้ กันอยู่ แต่ เครื่องเล่น ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านของที่ระลึกเสร็จแล้ว ใช้บริการ(และจ่ายเงิน)ได้ตามปกติ ในส่วนอื่นพวกสวนสัตว์ยังปิดก่อสร้างอยู่

ธีมอูฐกับอากาศร้อนๆของเมืองไทยนี่เข้ากั๊นเข้ากัน

ทางเข้า
ทางเข้าอยู่ข้างใต้ตรงนี้เลย โคมสีดำตัดกับสีผนังสวยดี
ที่ซื้อตั๋วเข้าชม อยู่ด้านซ้ายของทางเข้า (ตอนนี้ยังไม่เก็บเงินเดินเข้าได้เลย)
ทางเดินด้านขวาของทางเข้า พื้นสวยเนอะ
ก่อนเข้าใช้บริการ อ่านข้อกำหนดกันซักนิด
ราคาเครื่องเล่น ซื้อเป็น Ticket 
ใครจะมาถ่ายรูปติดต่อก่อนด้วยนะคะ เดี๋ยวจะดราม่ากันในพันทิปอีก
เมื่อเข้ามาด้านใน จะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมโล่งๆ เจอเครื่องเล่น Flying Macaw โดดเด่นรอต้อนรับอยู่เลย
Flying Macaw ชมวิวภูเขาได้ ถ้ากล้าเปิดตานะ

พร้อมแล้วก็บินรับแดดร้อนๆได้เลย~


ตรงนี้น่าจะเป็นน้ำพุที่ยังไม่ได้ติดตั้ง
เครื่องต่อมา Mini Dance 360องศา
เหวี่ยงติ้วๆเลย หวาดเสียว

ดู Clip Mini Dance
เครื่องนี้ไม่รู้อะไร หมุนๆข้างใน น่าจะ Zero Gravity 
Drop Twist เตี้ยไปหน่อย แต่ก็เสียวอยู่ดี
Egle Zipline


 ถ่ายรูปพอสุกแล้ว(แดดร้อนมากกกกก) ก็แวะหาของเย็นๆกินกันดีกว่า ต่ายเห็นร้านขนมอยู่ 2 ร้านคือ ร้านไอศกรีมกับร้านเครปเย็น ต่ายเลือกเข้าร้านเครปเพราะมีน้ำแข็งไสค่ะ 



ถ้วยนี้ 79 บาทก็ใช้ได้ แลกกับแอร์เย็นๆ ที่นั่งพักสบายๆ 
 เดินวนมาอีกนิด ก็จะเจอห้องน้ำ ของผู้ชายสีม่วง ของผู้หญิงสีส้มค่ะ ตกแต่งสวยดีอีกแล้ว
ห้องน้ำชาย
ห้องน้ำหญิง
ห้องน้ำสำหรับคนพิการ/คนชรา/คนใช้รถเข็น 
 มาต่อที่โซนช็อปปิ้งบ้าง ตอนนี้เปิดอยู่ 2 ร้านคือ Hollywood Studio Stores กับร้านขายของที่ระลึก (ทางออกจากที่นี่ก็ออกทะลุร้านขายของที่ระลึกนี่หละค่ะ)
ตุ๊กตาน่ารักๆทั้งนั้น
อยากซื้อกลับบ้านแต่ราคาแรงเอาเรื่อง



ไม่ทิ้งธีมอูฐ

ช๊อปนี้มีทั้งของเด็กของผู้ใหญ่



 หมดแล้วค่ะ โซนอื่นยังไม่เสร็จ มีรั้วกั้นแปะป้ายไว้


ร้านนี้อยู่รอบโซนเครื่องเล่น แต่ยังไม่เสร็จเหมือนกัน
ส่วนเครื่องนี้อยู่ด้านนอกตรงที่ยังสร้างไม่เสร็จค่ะ เป็น Zero Gravity เหมือนกัน(คิดว่านะ)

ใครชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวก็มาสนุกที่นี่ได้ค่ะ 
ส่วนคนชอบถ่ายรูปอาจต้องรอนิด ตอนนี้มุมถ่ายยังน้อยค่ะ ผ่านมาถ่ายรอบๆพอได้อยู่บ้าง

29.03.14
by Rabbit on the spoon

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

รีวิวหนัง : Sabotage คนเหล็กล่านรก

รีวิวหนัง : Sabotage คนเหล็กล่านรก
เรื่อยๆไม่ได้มีชั้นเชิงในการขมวดปมอะไร ถ้าไม่มีฉากการตายที่ชวนตกใจ หนังก็แทบไม่มีอะไรเลย (แต่ถ้าจะดูฉากตายงี้ไปดู Final destination เอาจะดีกว่า -_-;)

อะไรนะ??? ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายของอกาธา คริสตี้ ?? แล้วเนื้อเรื่องออกมาแค่นี้???

เรื่องย่อ 
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ทั้ง 10 คนจากหน่วยปราบปรามยาเสพติดนำโดย จอห์น วาร์ตัน (อาร์โนลด์ ชวาร์ซเนกเกอร์) ได้ร่วมวางแผนลับในการเข้าปล้นเซฟ์เฮ้าส์ของพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่แห่งวงการ โดยมีเป้าหมายเป็นเงินก้อนยักษ์มูลค่านับหลายล้านเหรียญ แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์สุดสยองกำลังรอพวกเขาอยู่ เมื่อจู่ๆก็มีนักฆ่าลึกลับ ค่อยๆคร่าชีวิตสมาชิกในทีมไปทีละคน...ทีละคนอย่างเป็นปริศนา ซึ่งบังคับให้พวกเขาต้องต่อสู้และไขความจริ งเพื่อเอาชีวิตรอดจากแผนปล้นสุดระห่ำที่กลับกลายเป็นภารกิจเสี่ยงตายในครั้งนี้ให้ได้
nangdee.com
หนังเรทสูงด้วยภาพศพ นม ยา และภาษาที่ใช้ ที่เหมือนจะพูดธรรมดากันไม่ได้เลย สบถหยาบหรือพูดเรื่องเพศกันตลอด

นึกว่าจะได้สนุกไปกับการลุ้นว่าจะสืบหาคนร้ายหรือการบู๊ป้องกันตัวและบุกสวนกลับแต่ไม่มีเลย ไปเรื่อยๆ พอถึงจุดที่จะทำให้คนดูสงสัยตัวละคร แทนที่จะขมวดปมให้เข้มข้น ก็ดันปล่อย เรื่อยเปื่อยแล้วก็เฉลยซะอย่างนั้น ดราม่าก็อ่อนจืดจาง ไม่ได้อินไปด้วยแม้แต่น้อย

ลุงอาร์โนลด์กล้ามยังแน่นนะ แต่ยังไงก็แก่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้โชว์บู๊อะไรเท่าไหร่เลย

บทนางเอกก็อ่อนมาก ดูไม่มีเหตุผลในการกระทำเลยซักฉาก แบบ...เอ๊าเธอจะต้องมายุ่งงี้เลยเหรอ..เอ๊า..ไม่คิดว่าเค้าเป็นคนร้ายเลยเหรอ ทำไมไปกะเค้า...ตลอดเรื่องเลย เหมือนมาทำหน้าที่เดินเรื่องเฉยๆ  

ยังงงๆกับหน้าที่ของทีมพระเอกว่าเป็นทีมพิเศษแฝงตัวสืบคดีค้ายาหรือเป็นหน่วยบุกกันแน่ เหมือนจะเป็นทั้ง 2 อย่าง แต่ก็ไม่ควรรึเปล่า?? หน่วย SWAT ก็ดูกระจอกจังนะ

ฉากจบ....เอาเท่ห์เฉยๆ ดูน่าเบื่อมาก 

Rabbit on the spoon
Mar 25, 2014
SFX Ladprao
cinema 6


วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

ก๋วยเตี๋ยวหลังบ้าน - ว่าน ธนกฤต


สโลแกน "ช้าหน่อย แต่...หร่อยจริง" ของร้านก๋วยเตี๋ยวหลังบ้าน ร้านแบบครอบครัวของว่าน ธนกฤต ที่บอกว่าทำกันเอง เลยอาจจะช้าหน่อยแต่รับรองความอร่อย

ร้านเปิดเวลา 10.00 - 16.00น. ปิดวันจันทร์
ร้านอยู่ตีนสะพานพระราม 5 ติดถนนใหญ่ ปากซอยนครอินทร์ 5 ใกล้ 4 แยกที่ตัดกับถ.กรุงเทพติวานนท์ค่ะ ถ้ามาจากสะพานพระราม 5 พอลงมาถึงสีแยกแล้วเลี้ยวขวานิดเดียว (นิดจริงๆนะระวังจะเลย) เข้าซอยแรกทางซ้าย แล้วเลาะไปในซอยเพื่อไปโผล่ ปากซอยนครอินทร์ 5 ค่ะ จอดรถข้างทางเลย ต่ายได้ที่จอดหน้าร้านพอดี โชคดีจัง แถมมองไปเห็นว่านอยู่หน้าร้านพอดี ไม่ต้องลุ้นเลยว่าอยู่รึเปล่า^^
Outdoor น่านั่ง
ร้านมีทั้ง indoor outdoor ค่ะ ด้านนอกเป็นระแนงไม้ มีต้นไม้น่านั่งดีค่ะ มีอยู่ 4-5 โต๊ะ แต่วันนี้ร้อนไปหน่อยเลยขอหลบไปนั่งตากแอร์ด้านในดีกว่า ผนังร้านเป็นกระจก 2 ด้านความร้อนส่งมาถึง คุณแม่ของว่านก็คอยจัดแจงให้มานั่งด้านในๆจะได้ไม่ร้อนกันค่ะ
ภาพอาหารติดผนัง สวยน่ากินมากค่ะ
indoor ตกแต่งด้วยอิฐสวยไม่แพ้ข้างนอก
เมนูง่ายๆ
ครัวในห้องกระจก มองเข้าไปเห็นหมดไม่ต้องกลัวเรื่องความสะอาดค่ะ
"สั่งอะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ ช้าแล้วนะคะไม่ได้ขู่นะ สั่งเพิ่มทีหลังได้ช้านะ"
แอบขำคุณแม่ของว่านที่มารับออเดอร์เอง เมนูเป็นก๋วยเตี๋ยวหมู-เนื้อค่ะ ชามละ 40 บาท ใส่อะไรไม่ใส่อะไร จะหมก จะน้ำตกก็สั่งไป ตอนแรกต่ายจะสั่งมาลองชามเดียวก่อนเพื่อดูปริมาณ แต่กลัวจะช้าจริงเลยเบิ้ล 2 มาเลย ส่วนน้ำมีราคาในเมนูนะคะ แต่ต้องไปตักเองข้าวนอกค่ะ


ตักน้ำเองเสร็จ เข้ามานั่งก๋วยเตี๋ยวก็มาแล้วค่ะ ไม่เห็นจะช้าเลยค่ะคุณแม่ (เห็นคิดเงินโต๊ะข้างๆแล้วลดราคาให้ด้วยเพื่อขอโทษที่ช้า อยากรู้เหมือนกันว่าช้าของร้านนี้คือกี่นาที หรือโต๊ะนั้นมาตอนคนพีคได้ช้าจริง)
ช่วยกันทิ้งเป็นที่นะคะ
ต่ายสั่งมาทั้งเนื้อทั้งหมูค่ะ อร่อยดีทุกอย่าง ไม่เผ็ดมาก เนื้อไม่เหนียวไม่คาว ลูกชิ้นอร่อย ให้ผักโรยเยอะ(อันนี้คุณแฟนชอบ) แต่ยังเข้มข้นได้กว่านี้ค่ะ ต่ายชอบเนื้อมากกว่าเพราะรู้สึกรสเข้มกว่าค่ะ
ก๋วยเตี๋ยวหมู-เนื้อ
ปริมาณน้อยกว่าร้านอื่นๆนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่น้อยจนน่าเกลียด รวมกับเครื่องที่ใส่มาก็สมราคาค่ะ ต่ายกินไป 2 จาน (ว่านมาเสิร์ฟเองด้วยนะ ร้านนี้แฟนคลับว่านมาคงฟินเลย) 
ถามว่าต่ออีกไหวมั้ย ไหวนะ ไม่รู้ว่าเพราะรสชาติกินได้เรื่อยๆ หรือเพราะต่ายกินเก่งกันนะ 555+

ต่อขนมหวานซักนิดค่ะ น้ำแข็งไสใส่น้ำแดงราดนมข้น ใส่เครื่องขนมปัง วุ้นมะพร้าว ถั่วแดง และลูกชิด 20 บาท ถ้วยใหญ่เชียวแต่เครื่องน้อยไปหน่อย

น้ำแข็งไส


อิ่มแล้วก็จ่ายเงินแล้วขอถ่ายรูปกับว่านค่ะ ^^
เป็นร้านที่กันเองๆดีค่ะ แบบครอบครัวสบายๆ ไปง่ายด้วย คงได้แวะไปกินอีกบ่อยๆ 

ปล.พอกลับมาบ้านเล่าให้ที่บ้านฟัง ที่บ้านก็บอกว่าเพิ่งไปกินมาไม่กี่วันนี่เอง แม่ของว่านช่วยอุ้มทารกน้อยลูกของน้าให้ด้วยระหว่างที่ทานกัน ขอบคุณมากเลยค่ะ น่ารักจริงๆ^^

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

รีวิวหนัง : Divergent


Divergent คนแยกโลก

Divergent สนุกดี แต่ยืดต้นท้ายรีบเชียว ก็ยังดีที่ได้เนื้อได้หนังหน่อย 
ดูละก็คิดถึง Harry Potter  Ender's game และ Hunger game ผสมกันซะอย่างนั้น 
นางเอกตาโต แม่นางเอกสวยมาก

Divergent คนแยกโลก หนังที่น่าจับตาดูที่สุดแห่งปี!!! (คนเอาเข้ามาฉายเค้าว่างั้นอะค่ะ) หนังสร้างจากเล่มแรกของวรรณกรรมเยาวชน 3 เล่มของ Veronica Roth ด้วยแนวของหนังสือที่คล้ายๆกันกับ  Hunger Game ว่าด้วยสาวน้อยที่ชะตาบีบบังคับให้ต้องสู้เพื่อเอาตัวรอด ปกป้องพวกพ้องของตนและปฎิวัติเมืองที่โดนแบ่งแยกชนชั้น คนก็จับตาดูว่าสาวน้อย Shailene Woodley ผู้แสดงเป็นบีทริซ นางเอกของเรื่องจะกลายเป็นเจนลอว์คนที่ 2 มั้ย (ปกหนังสือกับใช้นกเป็นสัญลักษณ์นี่ก็คล้ายแฮะ - -")


ชอบกว่า  hunger game ภาคแรก(เพราะเอาเรื่องนั้นไปเทียบกับ Battle Royal) 
แต่ยังด้อยกว่า hunger game: catching fire มาก 
ภาค 2 จะตีตื้นได้มั้ย...ไม่รู้ค้าบ รอต่อไป แต่ได้ข่าวว่าหนังสือภาค 3 ทรมานจิตใจคนอ่านทั้งคู่อะนะ 



เรื่องนี้ไม่ได้แบ่งคนตามแหล่งกำเนิดและอาศัยแบบ Hunger game แต่แบ่งด้วยอุปนิสัยของแต่ละคน โดยเด็กทุกคนเมื่ออายุครบ 16 ปี จะต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อดูว่านิสัยของตนเข้ากับกลุ่มไหนใน 5 กลุ่ม คือ Candor กลุ่มคนที่ยึดถือในความจริง Abnegation กลุ่มที่ยึดมั่นในการเสียสละตนเอง, Dauntless กลุ่มคนที่ยึดมั่นในความหาญกล้า, Amity กลุ่มคนที่ยึดถือในความสมานฉันท์ และ Erudite กลุ่มคนที่ยึดถือในความรู้และสติปัญญา แต่เด็กเองก็มีสิทธิที่จะเลือกไม่ตรงกับผลทดสอบได้ แต่เด็กบางคนเช่นบีทริซ กลับไม่สามารถวัดผลชัดเจนได้ เธอเหมาะกับหลายกลุ่มหรือเรียกว่า Divergent ไม่มีกลุ่มไหนที่จะคุมเธอได้เต็มที่ จึงถือเป็นตัวอันตรายที่จะโดนกำจัด ทริซต้องตัดสินใจที่จะเลือกระหว่างครอบครัวและความใฝ่ฝันของตนเอง รวมถึงปิดบังว่าตัวเองเป็น Divergent ไปด้วย



เรื่องภาคนี้หลักๆเป็นการปูเรื่องให้คนเข้าใจลักษณะของเมือง และแต่ละกลุ่ม รวมถึงการฝึกฝนปรับตัวเข้ากับกลุ่มใหม่ของทริซด้วย โดยใช้เวลาไปค่อนเรื่อง เลยออกจะเชื่องช้าไปบ้าง แต่ตอนท้ายก็ได้เนื้อหาเยอะพอสมควร ถึงแม้จะค่อนข้างรีบก็เถอะ ในช่วงฝึกฝนของทริซก็ไม่น่าเบื่อเกิดไปนัก ยังมีให้ลุ้นอยู่เรื่อยๆว่าสาวน้อยที่อ่อนแอจะเข้มแข็งขึ้นได้อย่างไร จะเอาตัวรอดยังไง แถมยังมีเรื่องความรักกับหนุ่มหล่อให้ได้ฟินกันด้วย

ชอบอะไร...ชอบเรื่องนี้ตรงที่นางเอกไม่ได้เก่งเทพอะไร คนทุกคนในสังคมก็ไม่ได้เทพ แม้จะมีการวัดความถนัด แต่ก็ไม่ใช่ว่า คนกลุ่มปัญญาจะฉลาดคิดอะไรถูกไปซะหมด กลุ่มผู้กล้าก็ยังต้องฝึกสู้กับความกลัวของตนเอง ตอนดูตัวอย่างนึกว่านางเอกจะเจ๋งมากและเป็น Divergent 1 เดียวซะอีก แต่ไม่ใช่แฮะ 

ชอบตาของนางเอกมากตาโต ส่งอารมณ์ นางเอกต้องดูนานๆพอเริ่มชินตาแล้วจะเห็นว่านางสวยนะ ส่วนแม่นาง(Ashley Judd) นี่สวยทุกช๊อตและเหมาะกับบทมาก




ไม่ชอบอะไร...ไม่ชอบตรงที่มันอืดต้นเร่งปลายนี่แหละ หลายๆ จุดก็น่าจะเค้นอารมณ์ให้พีคได้กว่านี้ แอบงงเนื้อเรื่องด้วยว่าตอนแรกยังเห็นเดินปนๆ กันทุกกลุ่ม ไปๆมาๆ ทำไมคุยไม่ได้หว่า บางกลุ่มก็ไร้บทบาทในหนังมากจนลืมว่ามีกลุ่มนี้อยู่เลย แล้วกำแพงในเรื่อง ถ้านอกกำแพงมันอันตราย แล้วให้กลุ่ม Amity ไปทำงานนอกกำแพงได้ไงหว่า ....สงสัยต้องไปหาหนังสืออ่านซะแล้ว

ดูรูปงานเปิดตัวเพิ่มเติมคลิกที่นี่


Siam Paragon
Mar 19, 2014
Rabbit on the Spoon
งานเปิดตัวหนัง Divergent