รีวิวหนัง : The Hunger game 2

The Hunger game 2

เรื่องราวของเกมล่าชีวิตที่จะลุกเป็นไฟ เมื่อ แคทนิส และ พีตา เดินทางกลับสู่เขต 12 ในฐานะผู้ชนะเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสโนว์ ที่พบว่าถูกกลุ่มคนเล็ก ๆ ท้าทายอำนาจ ตัดสินใจที่จะจัดเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 ด้วยการนำอดีตผู้ชนะจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน เพื่อหาผู้รอดเพียงคนเดียว ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ก็การเป็นชนวนสำคัญ ที่จะเปลี่ยนรัฐพาเน็มไปตลอดกาล

Majorcineplex.com 

ดีสมคำร่ำลือ!!! 

--ไม่สปอย--
ความคาดหวัง: คือภาคแรกไม่อิน อยู่ในระดับเฉยๆเรื่อยๆ พอเห็นกระแสภาคนี้(คะแนนทุกรีวิวประมาณ 100/100) ก็ยังคิดอยู่ว่ามันฮิตตามกระแสเฉยๆรึเปล่า บางเรื่องที่กระแสแรงเราก็ไม่ชอบเอาซะเลย เช่น แวมไพร์ทไวไลท์ มาดูนี่ก็ขอแค่ให้มันดีกว่าภาคแรกแค่นั้น

ผลจากการดู: ร้องไห้ตั้งแต่ฉากแรกๆ นี่หล่อนไม่อินกับภาคแรกแล้วหล่อนจะร้องไห้ทำไม-_-? หนังหนักดราม่ามากกกก ค่อยๆปูให้เห็นแรงผลักดันที่ทำให้แคทนีสเติบโตขึ้น อย่างมีเหตุมีผล มีความเป็นมนุษย์มากๆ คือนางไม่ใช่ฮีโร่ที่เกิดมาพร้อมพลัง นางยังมีความกลัว เหงา เศร้า แบบที่มนุษย์ทั่วไปมีกัน ดูแล้วก็ลุ้นและเอาใจช่วยนางไป

หนังแทบไม่บู๊นะ เนื้อเรื่องมีตัวช่วยให้เราดูออกและเดาเรื่องได้ไม่ยาก แต่ก็มาเนียนๆไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสอะไร แคทนีสเล่นได้สมกับเป็นดาราออสการ์ แม้บทจะวันทองพอๆกับนางเอกทไวไลท์ แต่กลับไม่เกลียดนาง ถ้าเป็นยัยแวมไพร์มาเล่นเรื่องนี้คงล่มจม ตัวละครอื่นมีความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นกันดี หลายๆตัวละครแสดงอารมณ์ได้ลึกถึงเนื้อในใต้หน้ากากที่ต้องใส่ ชอบเอฟฟี่ย์มาก นอกจากที่เสื้อผ้าหน้าผมจะโดดเด่นแล้ว บทนางในภาคนี้ยังมีมิติลึดซึ้งมากยิ่งขึ้นด้วย

ที่แย่คือ...ตอนจบ ไม่ได้แย่ตรงส่วนเนื้อหานะ แย่ตรงภาพจบ ไปดูละจะเข้าใจ อยากจะอุทานว่า @!#ไรนี่!!!เอาไรคิด ฉากเดียวดึงความซาบซึ้งที่มีต่อหนังทั้งเรื่องพังไปเลยจ้า

21 Nov 2013

Cinema 14

Paragon