Step Up All In หนังเต้นภาคที่ 5 รวมนักแสดงหลักของหลายๆภาคไว้มากที่สุด และมี Trish Sie สาวนักออกแบบท่าเต้นมารับหน้าที่กำกับ
ด้านเนื้อเรื่องในภาคก่อนๆจะเริ่มเว่อร์ เพราะขยายสเกลขึ้นเป็นการเต้นที่ไม่ใช่แค่เพื่อความฝันของตน แต่เพื่อปกป้องเมืองเลยทีเดียว ตอนดูก็คิดว่าสงสัยภาค 5 คงต้องเต้นปกป้องประเทศแล้วหละ แต่กลับพลิกมาเป็นภาคที่เนื้อเรื่องใกล้ชีวิตจริงของนักเต้นมากที่สุด หนังนำเสนอชีวิตของนักเต้นที่ต้องดิ้นรนอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มีงานพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แม้แต่ The Mob ที่เคยโด่งดังจนได้ไปโฆษณาให้ไนกี้ยังโดนลืมง่ายดาย เมื่อมีการเปิดรับสมัครทีมเต้นในรายการ Vortex ซึ่งมีรางวัลเป็นสัญญาจ้างงาน ถึง 3 ปี ทุกคนจึงต้องพยายามคว้ารางวัลนี้มาให้ได้
เนื้อเรื่องดีนะ ชอบ แต่นักแสดง(นักเต้น) แสดงแข็งจริงๆ แข็งกว่าภาคอื่นๆด้วยซ้ำ มีเพียงพิธีกรของ Vortex ที่แสดงจัดเต็มเล่นใหญ่(เกิ๊น)แต่ก็แค่เพิ่มสีสันขึ้นมาหน่อยเท่านั้น บทสนทนาก็ไม่ค่อยดี ขาดๆเกินๆตลอดเวลา จนไม่ส่งให้เนื้อเรื่องน่าสนใจเลย เมื่อรวมกับดำเนินเรื่องก็เป็นสไตล์เดิมๆเก่าๆ หนังเลยน่าเบื่อมากโดยเฉพาะค่อนต้นแรก
การกระจายบทก็น้อยมาก นอกจากหัวหน้าทีมของแต่ละทีมแล้ว ลูกทีมนี่แทบจะไม่มีความคิดไม่มีปากเสียงเลย เรื่อยเปื่อย ใครว่าไงว่าตามกันตลอดเวลา
จริงๆทั้งหมดนี้เราจะไม่บ่นเลย ถ้าการเต้นมันดี เพราะเดิมทีดู Step up ก็ไม่คาดหวังกับด้านอื่นๆอยู่แล้ว แต่ปรากฎว่าการเต้นก็ทำได้ไม่ดี แค่การเต้นฉากแรกของThe Mob ก็แย่แล้ว ด้อยกว่าภาค 4 อย่างเห็นได้ชัด เข้าใจนะว่าต้องชู Grim Knights ให้เก่งกว่า แต่การมาลดความเก่งของ The Mob ลงดื้อๆนี่ก็เกินไป
ฉากพระเอกฌอน : ไรอัน กัซแมน (Ryan Guzman) (Step Up : Revolution)เจอนางเอกแอนดี้ : บริอานา เอวิแกน (Briana Evigan) (Step Up 2 The Streets)ครั้งแรกนี่ก็น่าผิดหวังมาก เป็นฉากการเต้นที่ห่วยที่สุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ นางเอกดูไม่คล่องตัว เต้นไม่น่าดูเลยถ้าไม่มีเสื้อผ้าหน้าผมช่วยรับรองว่าดับ
ฉากเต้นมาน่าสนใจเอาตอนท้ายๆเรื่องแล้ว แต่ก็ไม่มีจุดพีคซักเท่าไหร่ เหมือนแต่ละคนไม่ได้แสดงศักยภาพหรือเอกลักษณ์เต็มที่ เต้นไม่ค่อยคมด้วย คนที่เต้นรอดที่สุดเห็นจะเป็นมูส : อดัม เซวานี (Adam Sevani) (Step Up 2 The Streets, Step Up 3D, Step Up : Revolution) กับ เดอะซานดิเอโก้ ทวินส์ มาร์ติน ลอมบาร์ด (Martin Lombard) และ ฟาคันโด ลอมบาร์ด (Facundo Lombard) (Step Up 3D)
ส่วนที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้กลายเป็นฉากเล็กๆกุ๊กกิ๊กหรือมุกเล็กๆของบรรดาลูกทีม ที่ทำให้ได้ยิ้ม โดยเฉพาะ โรบอทกาย แชดด์ สมิธ (Chadd Smith) (Step Up3D, Step Up:Revolution)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น