วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

The fault in our stars : หนังโรแมนติคที่อบอุ่น น่ารัก และเศร้ามากๆอีกเรื่องนึง

The Fault in our stars สร้างขึ้นจากนิยายขายดีเป็นอันดับ 1 ของจอห์น กรีน

เรื่องราวของ  “กัส” (Augusttus Waters : Ansel Elgort) ชายหนุ่มผู้ร่าเริงและหวังเป็นที่จดจำของผู้คน และ “เฮเซล” (Hazel Grace Lancaster : Shallene Woodley) หญิงสาวที่มักจะเก็บตัวไร้เพื่อน ถึงทั้งสองคนจะมีนิสัยที่ต่างกันแต่ก็เหมือนกันตรงที่ป่วยเป็นมะเร็งทั้งคู่ และโชคชะตานำพาให้ได้มาพบกัน  เพื่อร่วมกันสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขแสนสั้นอันเป็นนิรันดร์ขึ้นมา




พระนางคู่นี้ อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง เพราะเพิ่งแสดงเป็นพี่น้องกันในเรื่อง Divergent  พอมาเรื่องนี้ได้เป็นคู่รักกัน ดูเคมีเข้ากันดีมาก และแสดงได้น่าจดจำกว่าในเรื่อง Divergent เยอะ  ด้าน Shallene Woodley  ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้แต่งหน้าสวยๆมีชุดเท่ๆอะไร แถมยังมีสายออกซิเจนคาดหน้าตลอดเวลาด้วย แต่เรื่องนี้นางเอกกลับดูมีเสน่ห์ยิ่งกว่าเดิม (ไม่นับดวงตาและขนตาที่สวยน่ามองคงเส้นคงวามาตลอด 2 เรื่อง ^^)  และได้แสดงอารมณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะฉากเศร้าๆที่น่าจะดึงอารมณ์ให้คนดูร้องไห้ตามไปไม่ยาก ส่วน Ansel Elgort ที่ใน Divergent ไม่ค่อยจะมีบทนัก จนเราแค่คุ้นหน้าแต่นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าแสดง พอมารับบทเด่นเต็มตัว ก็เป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลมาก มีรอยยิ้มได้โลกสดใสจริงๆ  

นอกจากสองคนนี้แล้วนักแสดงคนอื่นๆในเรื่องก็หน้าตาดีหมดทุกคนและก็แสดงอารมณ์ออกมาแบบไม่เว่อร์แต่รู้สึกได้  เป็นบรรยากาศที่อบอวลเบาๆอยู่รอบตัวเอกทั้งสอง

ด้วยเนื้อเรื่องที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องเศร้า พอได้เห็นตัวละครทั้ง 2 มีความสุข ก็ยิ่งรู้สึกถึงความสุขสวยงามนั้นแบบทวีคูณ เอาใจช่วยให้ทั้งคู่พบความสุขแบบไม่มีใครต้องตาย ไม่มีใครต้องทิ้งอีกคนไว้ข้างหนัง แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้

ก็เป็นหนังที่ให้กำลังใจคนได้ดี  ให้คนได้เห็นถึงคุณค่าของตัวเองและคุณค่าของเวลา ทุกวินาที รวมถึงความรู้สึกของคนรอบข้างโดยเฉพาะพ่อแม่ซึ่งก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน 

ทิ้งท้ายนอกเรื่องนิดนึง.... บางคนอาจจะเห็นว่ามะเร็งเป็นเรื่องไกลตัว อย่างเราเองเดิมทีก็คิดแบบนั้น แต่อยู่ๆคนรอบตัวก็เป็นมะเร็งกันไปหลายคนมาก  หรือไม่ใช่มะเร็งก็เป็นเนื้องอก  ประสบอุบัติเหตุ คนที่เห็นหน้ากันวันนี้ พอพรุ่งนี้ก็เป็นข่าวหน้าหนึ่ง....ชีวิตคนก็ไม่แน่ไม่นอน และเมื่อมันเกิดขึ้น มันก็เศร้ายิ่งกว่าในหนังเรื่องไหนๆ   เพราะฉะนั้น ก็อย่างที่หนังบอกเล่าออกมา ปลายทางนั้นทุกคนล้วนต้องตาย ไม่มีใครหนีพ้น เพราะฉะนั้นเราควรใช้ชีวิตอย่างตั้งใจ ไม่พูดไม่ทำในสิ่งที่จะทำให้รู้สึกผิดในภายหลัง โดยนึกถึงว่าสิ่งที่เราพูดนี้อาจจะเป็นคำสุดท้ายที่เราได้พูดกับเค้าก็ได้  วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเค้า หรือของเราก็ได้ เพื่อที่ทำให้ช่วงชีวิตของเรา ไม่ว่าสั้นหรือยาว เป็นช่วงชีวิตที่ “ดี”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น